หลักการและเหตุผล ปัญหาอย่างหนึ่งที่นักขายพบตลอดเวลาคือ เมื่อเจอลูกค้าจะพูดอย่างไร ควรจะเปิดการขายลักษณะไหนที่จะไม่ทำให้ลูกค้าปฏิเสธที่จะคุยต่อ หลังจากที่เสนอขายไประยะหนึ่งแล้ว ควรจะปิดการขายอย่างไร ถ้าลูกค้ามีข้อโต้แย้ง เราควรที่จะลดหรือกำจัดข้อโต้แย้งลูกค้าอย่างไร ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่นักขายค้นหาสูตรสำเร็จรูปเพื่อแก้ปัญหา ความจริงคือไม่มีสูตรสำเร็จรูปที่ว่านี้ เพราะลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งที่นักขายทำได้คือการเข้าใจลูกค้า ทำให้ลูกค้าอยากที่จะคุยด้วย นั่นคือวัตถุประสงค์ในการจัดทำหลักสูตรนี้
Outline1. เข้าใจวิธีการที่ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้า • ขั้นตอนในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ช่วยให้นักขายเข้าใจลูกค้ามากขึ้น และให้ความสนใจในการนำสิ่งที่ลูกค้าใช้ในการตัดสินใจ มาใช้ประโยชน์ในการเปิดการขายและปิดการขาย• Workshop ทำให้ผู้อบรมเข้าใจขั้นตอนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่แตกต่างกันไป ตามประเภทสินค้า ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้นี้กลับไปวางแผนการเปิดการขายและปิดการขายให้ตรงใจลูกค้าของตนได้ 2. วิธีการเปิดการขายอย่างตรงใจลูกค้า • ลำดับขั้นตอนการเปิดการขาย เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสนใจและตั้งใจที่จะคุยต่อ • เครื่องมือการหาความต้องการของลูกค้า นักขายจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการเข้าใจและสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า • Workshop กิจกรรมสร้างความเข้าใจให้ผู้เข้าอบรม พร้อมทั้งเห็นความแตกต่างในการเปิดสินค้าแต่ละประเภทที่ไม่เหมือนกัน การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการเปิดการขาย 3. ป้องกันข้อโต้แย้งเพื่อนำไปสู่การปิดการขาย • ข้อโต้แย้งของลูกค้าที่พบบ่อย และวิธีการตอบข้อโต้แย้งนั้นๆ • Workshop ระดมสมองค้นหาข้อโต้แย้งที่มักเกิดขึ้นในการขายในสถานการณ์การขายจริง การตอบข้อโต้แย้งที่จูงใจลูกค้า 4. วิธีการปิดการขายที่ตรงใจ • ปิดการขายให้ตัวเองก่อนปิดการขายให้ลูกค้า นักขายต้องมีแรงจูงใจในการปิดการขาย วิธีการสร้างความมั่นใจในการปิดการขาย • เทคนิคการปิดการขายที่ลูกค้าสบายใจ • Workshop การปิดการขายด้วยการใช้เทคนิคต่างๆที่เรียนมา เพื่อช่วยให้ผู้เข้าอบรมมีประสบการณ์ในการวางแผนการปิดการขาย เพื่อเอาไปต่อยอดในอนาคต อ.ชิงชัย อิทธิอมรกุลชัยUpper Knowledge Sales Coach• วิทยากรและนักบริหารผู้มีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 20 ปีกับบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง อาทิ โตโยต้า มอเตอร์เชฟโรเลต เซลส์วอลโว่คาร์ธนาคารไทยพาณิชย์ • มีความชำนาญด้าน - การตลาด - การขาย - การพัฒนาธุรกิจ นอกจากสไตล์การถ่ายทอดที่เน้นเรื่องการเรียนรู้สองทาง (Interactive Learning) แล้ว อ.ชิงชัยยังใช้หลักการเรียนรู้แบบยืดหยุ่น (Adaptive Learning) โดยปรับการนำเสนอและฝึกอบรมให้เหมาะสมกับประสบการณ์และความรู้ของผู้เข้าอบรม ดังนั้นผู้เข้าอบรมจึงมีโอกาสเรียนรู้อย่างครบด้าน ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติควบคู่กันไป ประสบการณ์ทำงาน- บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด รองประธานฝ่ายขาย- บริษัท เชฟโรเลตเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาตัวแทนจำหน่าย - บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ผู้จัดการฝ่ายตัวแทนจำหน่าย- บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและแผนกรับประกันอัคคีภัย ผู้แต่งหนังสือ one of the best seller เกี่ยวกับการการสร้างสัมพันธ์เพื่อเพิ่มยอดขาย