ไม่มีผู้นำ ผู้บริหารคนไหนที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเดี่ยว ปราศจากความร่วมมือ สนับสนุน ส่งเสริมจากผู้อื่น ในยุคนี้ผู้นำจึงไม่เพียงต้องเก่งบริหารงาน มีวิสัยทัศน์กว้างไกล แต่ต้องเก่งบริหารคนด้วย ดังนั้นทักษะเรื่องคน ความสามารถในสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ผู้นำต้องมี ในเรื่องการบริหารคนที่ละเลยไม่ได้ก็คือ “คน” ที่หมายถึง “ตนเอง” เนื่องจากก่อนที่เราจะไปบริหารพัฒนาผู้อื่นได้ ต้องเริ่มต้นจากการบริหารพัฒนาตัวเองได้ก่อน ซึ่งต้องทำความเข้าใจในมิติความเป็นตัวเอง เข้าใจในพฤติกรรมของตัวเอง และสามารถมองได้ทะลุถึงอิทธิพลของพฤติกรรมของตัวเองที่ส่งผลต่อผู้อื่น คำกล่าวที่ว่า “จงปฏิบัติต่อผู้อื่น เหมือนกับที่เราต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา” ดูเหมือนจะเพียงพอต่อการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลต่างๆ จริงหรือที่เราจะพึงพอใจกับการที่ผู้อื่นปฏิบัติต่อเราด้วยวิธีการในแบบของเขาเสมอไป? ลองเปรียบเทียบกับคำกล่าวใหม่นี้ “จงปฏิบัติต่อผู้อื่น เหมือนกับที่เขาต้องการให้เราปฏิบัติต่อเขา” จะพบว่าเป็นวิธีการสร้างสัมพันธภาพที่ดีและได้ใจกันมากกว่าคำกล่าวแรก นั่นเป็นเพราะเราเอาใจเขามาใส่ใจเรา ซึ่งเป็นการนำเอาศาสตร์ทางด้านจิตวิทยาทางพฤติกรรมมาประยุกต์ใช้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าแต่ละบุคคลต้องการให้เราปฏิบัติต่อเขาเหล่านั้นอย่างไร ? สิ่งที่คุณมองเห็น.... อาจไม่เหมือนสิ่งที่ฉันมองเห็น.... และอาจไม่ใช่สิ่งที่มันเป็น.... ในปี 1928 นักจิตวิทยา Dr.William M. Marston ได้ศึกษาเรื่องความแตกต่างทางพฤติกรรมของมนุษย์ในการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม และได้จำแนกคุณลักษณะพฤติกรรมมนุษย์นี้ออกเป็น 4 มิติ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในคำว่า "DISC" ปัจจุบันได้มีการนำเอาหลักการนี้มาพัฒนาเป็นเครื่องมือในการประเมินคุณลักษณะและรูปแบบพฤติกรรมตนเอง (Behavioral Profile Assessment) ใช้กันอย่างกว้างขวางในวงการทำงาน การจัดสรรทรัพยากรบุคคล การศึกษา การพัฒนาตนเอง เป็นต้น DISC มาจากอักษรย่อของ 4 คุณลักษณะ คือ Dominance (D), Influence (I), Steadiness (S) และ Compliance (C) ซึ่งเป็นคุณลักษณะพฤติกรรมที่มีความเฉพาะตัวแตกต่างกัน ดังนี้ Dominance ตรงไปตรงมา มั่นใจ เด็ดขาด แน่วแน่ กล้าเผชิญหน้า ตัดสินใจเร็ว ทำงานเร็ว คล่องแคล่ว เน้นผลลัพธ์ ชอบความท้าทาย ผจญภัย แข่งขัน ต้องการอำนาจ ชอบจัดการกับปัญหา มองภาพใหญ่ Influence ช่างพูด ช่างเจรจา เปิดเผย ชอบสังสรรค์ เข้าสังคมพบปะผู้คน กระตือรือร้น สนุกสนานกับกลุ่มคน อารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี เป็นมิตร ปรารถนาที่จะช่วยผู้อื่นอย่างมีส่วนร่วม โน้มน้าวจูงใจเก่ง Steadiness ใจเย็น อดทน เป็นผู้ฟังที่ดี เห็นอกเห็นใจผู้อื่น สุภาพ อ่อนน้อม ทำงานตามแบบแผน ให้ความร่วมมือกับกลุ่ม ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความมั่นคง สม่ำเสมอ ประณีต รอบคอบ ค่อยเป็นค่อยไป เรื่อยๆ สบายๆ Compliance เจ้าระเบียบ พิธีรีตรอง อิงกฎและมาตรฐาน มีวินัย ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและข้อเท็จจริง ต้องการความถูกต้องและแม่นยำ ชอบการคิดวิเคราะห์ เน้นเหตุและผล สุขุม รอบคอบ ครุ่นคิด เก็บความรู้สึก
คุณลักษณะพฤติกรรมทั้ง 4 ลักษณะนี้ ไม่มีคุณลักษณะใดดีกว่าลักษณะอื่นๆ ไม่มีผิด ไม่มีถูก แต่ละคุณลักษณะมีทั้งจุดแข็งและข้อจำกัดในตัวเอง และแต่ละบุคคลจะมีคุณลักษณะทั้ง 4 ปนกันอยู่มากบ้างน้อยบ้าง โดยทั่วไปจะมีคุณลักษณะโดดเด่นปรากฏออกมา 1-2 คุณลักษณะ Upper STYLE ช่วยให้เรา “อ่าน” ตัวเองออก ว่าเป็นคนแบบไหน ถนัดการแสดงพฤติกรรมอย่างไร มีจุดแข็งจุดอ่อนที่ไหน เรื่องอะไรหรือสิ่งไหนกระทบความรู้สึกเราได้ ระลึกรู้พฤติกรรมของตัวเองได้ตลอด เมื่อเราอ่านตัวเราออก ก็สามารถเขียนเตือนตนได้ ช่วยให้เราค้นหาแนวทางที่เหมาะสม รู้ขีดขั้นความเหมาะสมที่จะปรับปรุงพฤติกรรมตน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเอง Upper STYLE ยังช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของผู้อื่นได้ดีขึ้น เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น แสดงกิริยาแบบนั้น โต้ตอบแบบนั้น ชอบพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนั้น เครื่องมือนี้ ช่วยเพิ่มการรับรู้ในความต่างของบุคลิกภาพ ทำให้เราปรับทิศการมองผู้อื่นอย่างเข้าใจในธรรมชาติของเขาเหล่านั้น หันไปมองต่างมุมจากมุมที่เราคุ้นเคย ทำความรู้จักผู้อื่นอย่างที่เขาเป็น ทำให้เราสามารถกำหนดแนวทาง “ปฏิสัมพันธ์” (interaction) กับแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม สามารถปรับทัศนคติที่มีต่อผู้อื่นได้ดีขึ้น ยอมรับและเคารพในความแตกต่างของแต่ละผู้คน จากพื้นฐานความเข้าใจเหล่านี้ ช่วยให้เราสามารถนำเอาคุณลักษณะที่ดีทั้งของตัวเราและของแต่ละบุคคลออกมาใช้ ทำการประสานความต่างให้เกิดความสมดุลย์ เกิดรูปแบบการทำงานร่วมกันที่มีความ “ยืดหยุ่น” และมี “ประสิทธิภาพ” ลดความขัดแย้ง ลดปัญหาเรื่องคน สุขทั้งเขา สุขทั้งเรา “Share our similaritiescelebrate our differences” from M. Scott Peck Upper STYLE สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในทุกกิจกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล ทั้งในชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัว (The extension of using Upper STYLE further development) เช่น + การพัฒนาตนเอง (Self development) + การพัฒนาทีมงาน (Teamwork) + ประสานพลังทีม (Team synergy) + การพัฒนาทักษะเรื่องคน (People Skill) + พัฒนาประสิทธิภาพการสื่อสารในองค์กร (Internal communication) + สร้างสัมพันธภาพที่ดี (Relationship) + การ Recruit บุคลากรที่เหมาะกับลักษณะงานและวัฒนธรรมองค์กร (Recruitment/Selection) + การ Coach บุคลากร สร้างแรงจูงใจและยกระดับขีดความสามารถบุคลากร (Coaching) + การรักษา “คนเก่ง” ให้อยู่กับองค์กร (Talent management/retention) + การสื่อสารและบริการลูกค้า (Customer service) + การเจรจาต่อรอง (Negotiation) + การขาย (Selling) + การบริหารความสัมพันธ์กับคู่ค้า (CRM) + การปรับตัวและรับมือภายใต้แรงกดดัน (Self adaptation for working under pressure) + การขจัดความขัดแย้ง จากความเข้าใจที่แตกต่างกัน (Conflict management) ข้อคิดจากคำกล่าวของ Carl Jung ; " The shoe that fits one person pinches another ; there is no recipe for living that suits all cases." รองเท้าที่คนหนึ่งใส่แล้วพอดี อาจจะไม่พอดีสำหรับคนอื่น ไม่มีสูตรสำเร็จเดียวที่เหมาะกับทุกชีวิต Profile Resultเรียกดูตัวอย่างของ Profile Result กรุณาคลิกที่โบรชัวร์ ด้านล่าง หรือ คลิกที่นี่