หน้าแรก
Home
เกี่ยวกับเรา
About Us
บทความ
Articles
หนังสือแนะนำ
Books
หลักสูตร
Inhouse Courses
สมาชิก
Member
ติดต่อเรา
Contact Us
Upper
Assessment
Member Login
(your email)
*
*
Forget Password?
สมัครสมาชิก
ตระกร้าสินค้า
กรุณาระบุอีเมล์ของท่าน
เพื่อรับข่าวสารจากเรา
*
Your email is not correct.
Course
Articles
บัญชี-การเงิน-กฎหมาย-ภาษี
กลยุทธ์/เทคนิคการบริหาร/Tools
การตลาด / การขาย / CRM
ภาวะผู้นำ/บุคลิกภาพ/การสื่อสาร
งานอดิเรกและวิชาชีพ
Team Building / Walk Rally
HRD / HRM
การลดต้นทุน / Cost Reduction
Life Planning / Inspiration
Home
>
Articles
กลยุทธ์เพิ่มผลกำไร กับ Performance Management
Share
By
Arthapol
Published Date
5 กรกฎาคม 2551
เมื่อพูดถึงผลกำไร หลายคนคงนึกถึงแต่กำไรที่อยู่ในรูปของ “เงิน” แต่ทำไมนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ กลับนึกถึงผลกำไรในรูปของ “เวลา” มากกว่า เพราะเงินซื้อสิ่งต่างๆมากมายได้ แต่ เงิน ไม่อาจซื้อเวลาที่ผ่านไปแล้วได้ และในทางกลับกัน ถ้าเรามีเวลาเหลือหลังจากเสร็จงานชิ้นแรก เราก็สามารถเอาเวลาไปทำเงินต่อได้อีก และประการสุดท้าย มันคงเป็นเรื่องน่าเสียดายหรือเศร้าเลยทีเดียว ถ้าเรามีเงินมากมาย แต่ไม่มีเวลาใช้มัน แต่ต้องเอาไปให้หมอแทน จะดีกว่ามั้ย ถ้าองค์กรของเรา มีระบบการจัดการที่ให้ความมั่นใจได้ว่า ธุรกิจที่กำลังทำอยู่ ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น พนักงานแต่ละฝ่ายทราบถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของตนอย่างชัดเจน สามารถติดตามงานและวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งมีระบบเตือนเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสภาพคล่องทางการเงิน ความพึงพอใจของลูกค้า การรักษาฐานลูกค้าเก่า การเปิดตลาดใหม่ รวมทั้งความพึงพอใจของพนักงาน และทั้งหมด สามารถช่วยให้เรามีเวลามากขึ้น ในการขยายโอกาสธุรกิจ ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ว่าจะเป็นเวลาพักผ่อนท่องเที่ยว มีเวลาดูแลสุขภาพหรืออยู่กับคนที่เรารัก แทนที่จะต้องวิ่งวุ่นอยู่กับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รายวัน อย่างไม่รู้จบ Performance Management (PM) หรือ ระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นเทคนิคในการบริหารงานยอดนิยมที่องค์กรชั้นนำของโลกหลายแห่งใน chart Fortune500 ใช้กัน ดูจะเป็นคำตอบหนึ่งที่จะช่วยให้เราได้ในสิ่งที่อยากได้ข้างต้น เพื่อให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ Performance Management (PM) เปรียบเสมือน การทำความฝันให้เป็นผลลัพธ์จริง ด้วยกระบวนการ จัดการ ตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย การกระจายงาน การประเมินผล และการพัฒนาคนให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น เพื่อให้ทำงานได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น สายการบินท้องถิ่นแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ได้วางแผนยกเครื่ององค์กร เพื่อที่จะก้าวสู่การเป็น Top 3 สายการบินภายในประเทศ ภายในระยะเวลา 6 ปี เค้าเริ่มต้นที่ การกำหนดเป้าหมาย วิธีกระจายงาน วิธีประเมินผลงาน และที่สำคัญคือ การปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนให้เข้ากับกระบวนการใหม่นี้ พร้อมๆกับการพัฒนาขีดความสามารถของคน วิสัยทัศน์ (Vision) ถูกย่อยลงมาเป็นวัตถุประสงค์ (Objective) ของแต่ละงาน รวมไปถึงตัวชี้วัด (Measure) ว่าจะวัดความสำเร็จอย่างไร เป้าหมาย (Target) ของแต่ละงานคืออะไร และสุดท้ายต้องสร้างสรรค์หรือทำกิจกรรมอะไรบ้าง (Initiative) เพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการ จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า การวางแผน (Strategy Map)เพื่อเพิ่มผลกำไรนั้น เริ่มจากการจัดการต้นทุน และการเพิ่มรายได้ ต่อเนื่องลงไปจนถึง การปรับปรุงการทำงานให้เร็วขึ้น เพื่อให้มีรอบการทำงานที่มากขึ้น ตลอดจนการจัดวางตำแหน่งงาน และการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร สิ่งเหล่านี้ส่งผลเป็นทอดๆขึ้นไป ตั้งแต่การเรียนรู้ ( Learning) การบวนการทำงาน (Internal Process) การดูแลลูกค้า (Customer Management) ไปจนถึงขั้นสุดท้ายที่ต้องการก็คือ ผลประกอบการ (Financial) พอจะเห็นภาพมากขึ้นแล้วใช่มั้ยครับว่า Performance Management (PM) เค้าทำกันอย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง และที่สำคัญ เทคนิคนี้ช่วยแบ่งเบาภาระงานและพัฒนาองค์กรของคุณอย่างไรบ้าง ซึ่งในฉบับหน้าเราจะมาเจาะลึกในรายละเอียดในส่วนของการประเมินผลด้วย Balanced Scorecard กันครับ มีคนกล่าวไว้ว่า การวางแผนที่ดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ถ้าวางแผนแบบอังกฤษปนไทย แพลน+นิ่ง (Plan แล้ว นิ่ง) ก็คงไม่เกิดผล นะครับ เริ่มลงมือตั้งแต่วันนี้เพื่อเพิ่มผลกำไรกันดีกว่านะครับ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ
หน้าแรก
Home
เกี่ยวกับเรา
About Us
บทความ
Articles
หนังสือแนะนำ
Books
หลักสูตร
Inhouse Courses
สมาชิก
Member
ติดต่อเรา
Contact Us
? Copyright 2008 by Upper Knowledge Co.,Ltd. All Rights Reserved.
Level 17 Alma Link Building, No.25 Chidlom, Ploenchit Road, Lumpini, Pathumwan, Bangkok 10330 Tel : 02-681-9721 Fax : 02-730-5509
Email : info@UpperKnowledge.com
website by : be pineapple