|
พลิกมุมคิด เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส กับ Blue Ocean Strategy |
Share
|
หลายครั้งหลายคราที่ธุรกิจ ต่างแข่งขันต่อสู้ ชิงความเป็นหนึ่งกันในกลุ่มลูกค้าและตลาดเดิมๆ เหมือนปลาหมอสองตัวที่ชิงความเป็นใหญ่ในสระน้ำโดยอาจจะลืมว่าโลกนี้ยังมีแม่น้ำและมหาสมุทรอันกว้างใหญ่อยู่ หากเปรียบเทียบกับการตลาด กลุ่ม Non-customer (คนที่ยังไม่เป็นลูกค้าของเรา) ถือว่าแหล่งรายได้และเป็นโอกาสเติบโตในอนาคต หากเราลองคิดอีกมุมหนึ่งและลองถามคนกลุ่มนี้ดูว่าว่า ทำไมถึงไม่ซื้อสินค้าและบริการของเรา (Why not?) เราอาจเจอคำตอบของการเติบโตที่เหมือนเส้นผมบังภูเขาก็ได้ จากที่อุตสาหะแข่งขันเจาะตลาด ลูกค้ากลุ่มเดิมมาตั้งนาน
เราจะเห็นได้ว่าในกลุ่ม Red Ocean ซึ่งตลาดเริ่มอิ่มตัวและมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น เมื่อจำนวนปีผ่านไป บริษัทที่ไม่ได้มีการพัฒนาตนเอง (ดังเส้นที่ 1) ย่อมถดถอยไปตามกาลเวลา ส่วนบริษัทที่ 2 และ 3 ได้สร้างโอกาส และmaintain การเติบโตของตนเองด้วยการขยายช่องทางจัดจำหน่ายและจับตลาดกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้น เช่นสินค้าเฉพาะกลุ่ม หรือใช้เฉพาะที่ เป็นต้น
Akio Morita นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นผู้ก่อตั้ง Sony Corp. เคยกล่าวถึงแนวคิดเชิงบวกของเขา ซึ่งน่าสนใจมาก คือ Empty space among circles = Niche market = Opportunity หากเปรียบกลุ่มลูกค้าที่เรา target ไว้เหมือนแต่ละวงกลม เมื่อเอาวงกลมมาชิดกัน ย่อมเกิดช่องว่างระหว่างวงกลมนั้นเสมอ นั่นคือโอกาสที่แต่คนจะมองเห็นหรือไม่ เท่านั้น
Sir Richard Charles Nicholas Branson ผู้ก่อตั้ง Virgin Group (eg. Virgin Atlantic Airways, Virgin Records,Virgin Megastores etc.) กล่าวไว้ให้ชวนคิดว่า “Learning to say NO, eventhough you are Mr.Yes” วลีนี้ สะท้อนถึงความคิดของ Sir Rirchard ที่ว่า การคิดอะไรนอกกรอบ การไม่ยึดติดกับวิธีปฏิบัติเดิมๆ ย่อมก่อให้เกิดโอกาสและความสร้างสรรค์เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ยังมีเนื้อหาที่น่าติดตามจากวลีนี้ รวมถึงการเริ่มต้นและเติบโตของ Virgin Group ในบางมุมที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะมากล่าวถึงกันในฉบับถัดไปครับ
|
|
|
|